Australian and Briton Appear in Thai Court

เธอคือใคร

วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เปิดถุงเงิน \"สฤษดิ์ -ถนอม -บิ๊กจ๊อด-บิ๊กบัง\" เรียกพวกเขาว่า คณะมั่งคั่งแห่งชาติ(คมช.) ?



ประชาชนวิเคราะห์ข่าว
เปิดถุงเงิน \"สฤษดิ์ -ถนอม -บิ๊กจ๊อด-บิ๊กบัง\" เรียกพวกเขาว่า คณะมั่งคั่งแห่งชาติ(คมช.) ?

เสาร์ ที่ 10 เดือน เมษายน พ.ศ.2553




 


ประชาชาติฯ ตามไปดู เศรษฐีใหม่ ที่ร่ำรวยหลังยึดอำนาจ จากยุค จอมพลผ้าขาวม้าแดง ถึง ยุค บิ๊กบัง ทรัพย์สินและความมั่งคั่ง ท่านได้แต่ใดมา ? พลเอกสนธิ เบาะ ๆ แค่ 90 ล้าน บิ๊กจ๊อดและเมีย เรียบโร้ยระดับ พันล้าน 3 จอมพลกิตติขจร-จารุเสถียร รวมกันพันล้าน สุดยอดต้องยกให้ จอมพลสฤษดิ์ ทะลุ 2,800 ล้าน


...น่าแปลกที่ นายพล และพลเอก   หลายคน ยิ่งพูดเรื่องรักชาติ มากครั้ง และเสียงดัง มากขึ้นเท่าใด
  พวกเขา ยิ่งร่ำรวย ยิ่งมั่งคั่ง  
  และยิ่งถ้า พวกเขาตบโต๊ะ  ประกาศลั่นว่า อั้ว รักชาติ  นั่นแสดงว่า สินทรัพย์ของ ฯพณฯ ทะลุ พันล้านแล้ว
  ในยุคเผด็จการที่  นายพล กับ เจ้าสัว เชื่อมต่อเป็นเนื้อเดียวกัน  ช่วงกลางทศวรรษ 2490
 พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์  เป็นกรรมการบริหารบริษัท 26 แห่ง  ซึ่งมีทั้ง ธนาคาร บริษัทภาพยนตร์ โรงแรม โรงงานน้ำตาล ธุรกิจนำเข้าส่งออก และธุรกิจเครื่องจักรกล
 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์  นั่งเป็นกรรมการบริหาร 22 บริษัท
  ปี 2512 จอมพลประภาส จารุเสถียร  เป็นกรรมการบริษัท 44 แห่ง พลเอกกฤษณ์ สีวะรา 50 แห่ง
  อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอก ประเสริฐ รุจิรวงศ์ ถูกเชิญเป็นกรรมการบริษัท 33 แห่ง
   หลังการอสัญกรรมของจอมพลสฤดิ์ มีข้อมูลระบุว่า จอมพลผ้าขะม้าแดงสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองและครอบครัวถึง 2,800 ล้านบาท
   นี่คือ ผลตอบแทนความรักชาติ  ที่สงวนสิทธิ์เฉพาะ ผู้สวมท็อปบู๊ต เท่านั้น
     @ ผู้รักชาติ นักปฎิวัติ และเศรษฐีใหม่  
      ในวาระครบรอบ 3 ปี แห่งการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 
      พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกปล้นอำนาจ ออกมาแฉว่า  การรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน คนไทยไม่ได้อะไรเลย  นอกจากได้เศรษฐีใหม่ส่วนใหญ่เป็นยศพลเอกและได้ทหารที่เข้มแข็งมีอาวุธมาก ขึ้น
    แม้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เจาะจงชื่อผู้โค่นอำนาจเขา แต่ถ้าจับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพรรคเพื่อไทยที่ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบความมั่งคั่งของ พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เครือญาติ ตลอดจนนายทหารร่วมกันยึดอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะเข้าใจนัยของอดีตนายกฯทันที
    ขณะที่ พล.อ.สนธิซึ่งมีทีท่าว่าจะลงสนามการเมืองได้ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่าพร้อมให้ตรวจสอบ เพราะได้แจ้ง ป.ป.ช.ไปหมดแล้ว
    เท่ากับจนถึงขณะนี้ภาระการพิสูจน์ความจริงถูกโยนไปที่ ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว 
    จากกรณีดังกล่าว หากเปิดกรุสมบัติของอดีตผู้นำ คมช.ที่ยื่นแสดงต่อ ป.ป.ช. ตอนรับตำแหน่งรองนายกฯ ในรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พบข้อมูลที่น่าสนใจ
    เพราะว่านายทหารอาชีพ 1 คน  ภรรยา 2 คนไม่ได้ทำธุรกิจ และ บุตรไม่บรรลุนิติภาวะ 1 คน รวม 4 คน มีทรัพย์สินรวมกันกว่า  90 ล้านบาท (ไม่รวมบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว 4 คน) ถือว่าไม่น้อย เมื่อเทียบกับนายทหารชั้นยศพลอากาศเอก และ พลเรือเอก ที่เป็นสมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันที่มีทรัพย์สินแค่ 30 ล้านบาท
     ทั้งนี้ วันที่  5 ต.ค. 2550  ตอนรับตำแหน่งรองนายกฯ พล.อ.สนธิแจ้งว่ามีทรัพย์สิน  38.7 ล้านบาท   นางสุกัลยา คู่สมรส คนที่หนึ่ง  14 ล้านบาท  นางปิยะดา คู่สมรส คนที่สอง  36.9  ล้านบาท  น.ส.ศศินภา บุตรไม่บรรลุนิติภาวะ 3 แสนบาทเศษ  รวม พล.อ.สนธิ นางสุกัลยา และน.ส.ศศินภา 53.1 ล้านบาท แต่ถ้ารวมนางปิยะด้วยเท่ากับ 90.1 ล้านบาท
     วันที่ 6 ก.พ.2551  ตอนพ้นตำแหน่ง ทรัพย์สินของ พล.อ.สนธิ นางสุกัลยา และน.ส.ศศินภา เพิ่มเป็น 60.1 ล้านบาท
     กระทั่งพ้นตำแหน่งครบ 1 ปีวันที่ 5 ก.พ. 2552  ทรัพย์สินของพล.อ.สนธิ นางสุกัลยา และน.ส.ศศินภา เพิ่มเป็น 62.2 ล้านบาท  น่าสังเกตว่าการยื่นบัญชีฯ 2 ครั้งหลัง พล.อ.สนธิ มิได้แจ้งทรัพย์สินของภรรยาคนที่สอง แต่อย่างใด
     หากเปรียบเทียบครั้งแรก กับ ครั้งหลัง ช่วงเวลาเพียงปีเศษ เพิ่มประมาณ 9 ล้านบาท ถือว่าพอสมควร  (ถ้าการยื่นบัญชีฯครั้งแรก ไม่คลาดเคลื่อนหรือหลงลืม)
     เมื่อเจาะลึกพบว่า พล.อ.สนธิมีเงินลงทุน ได้แก่ หุ้นการบินไทย ,กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร และ หุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ นสค.  รวม 11.2 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง  แต่รายการที่เพิ่มขึ้นคือ "ที่ดิน " และ "เงินฝาก"
     เงินฝาก ตอนรับตำแหน่ง พล.อ.สนธิแจ้งว่ามี 23.5 ล้านบาท นางสุกัลยา 3.9 ล้านบาท  ตอนพ้นตำแหน่งพล.อ.สนธิมี 29.3 ล้านบาท นางสุกัลยาลดลงเหลือ 1.3 ล้านบาท ตอนพ้นตำแหน่ง 1 ปี พล.อ.สนธิมี 26.6 ล้านบาท นางสุกัลยาเพิ่มเป็น 1.6 ล้านบาท
     ส่วนที่ดิน ตอนรับตำแหน่ง พล.อ.สนธิแจ้งว่าไม่มี นางสุกัลยามี 1 แปลง 1.3 ล้านบาท  ตอนพ้นตำแหน่ง พล.อ.สนธิ มี 1 แปลง มูลค่า 3.3 ล้านบาท นางสุกัลยา 4 แปลง 5.2 ล้านบาท ตอนพ้นตำแหน่ง 1 ปี พล.อ.สนธิมีที่ดิน 6 แปลง 6.3 ล้านบาท ส่วนนางสุกัลยามี 4 แปลง 
     เบ็ดเสร็จที่ดินของคนทั้งสองเพิ่มขึ้นประมาณ 9 แปลง
   @ บิ๊กบัง หรือ จะสู้ บิ๊ก จ๊อด
     ขุมทรัพย์ของ "บิ๊กบัง"  เท่าที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.    ถ้าวางเทียบกับ บุรุษเสื้อคับอย่าง พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์  อดีตประธานสภารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่โค่นอำนาจ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534  ถือว่าจิ๊บจ๊อยเป็นอย่างยิ่ง
     มีข้อมูลระบุว่า "บิ๊กจ๊อด" ผู้ให้สัมปทาน "ดาวเทียมสื่อสาร"แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ  รวยนับพันล้านบาท
     ก่อนหน้านี้  คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อติดตามการดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของ พล.อ.สุนทร ชุดนายทองใบ ทองเปาด์ อดีตส.ว.มหาสารคาม  ได้ตรวจสอบพบว่า "บิ๊กจ๊อด" มีทรัพย์สินอยู่ในการครอบครองของนางอัมพาพันธ์  ธเนศเดชสุนทร ภรรยา (อีกคน) ของ พล.อ.สุนทร ประมาณ 1,000 ล้านบาท
     ภายหลังจาก พล.อ.สุนทรเสียชีวิตเกิดศึกแย่งชิงมรดกระหว่าง นางอัมพาพันธ์ กับ พ.อ.(หญิง) คุณหญิงอรชร คงสมพงษ์ ภรรยาของพล.อ.สุนทร   นางอัมพาพันธ์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแห่งกรุงเทพใต้ ขอให้มีคำสั่งเป็นผู้จัดการมรดก  โดย พ.อ.(หญิง) คุณหญิงอรชร และบุตรชาย 2 คน ยื่นคัดค้าน พร้อมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางอัมพาพันธ์ กับพวก รวม 12 คน เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนนิติกรรม และเรียกคืนทรัพย์สินประมาณ 3,900 ล้านบาท
     คณะกรรมาธิการวิสามัญฯเข้าไปตรวจสอบสินมูลค่า 1,000 ล้านบาท และมีข้อสังเกตว่า ช่วงก่อน-หลัง เป็นประธาน รสช. บัญชีเงินฝากของ พล.อ.สุนทร มีกระแสเงินไหลเวียนเข้า-ออก สูงถึง 122.6 ล้านบาท และ จำนวน 127.3 ล้านบาท ตามลำดับ
     นางอัมพาพันธ์ ไม่ได้ประกอบธุรกิจ นอกจากเล่นหุ้นในบางครั้งแต่กลับมีทรัพย์สินในครอบครองมูลค่าถึง 1,000 ล้านบาท และไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่าได้ทรัพย์สินมาอย่างไร
     ต่อมากรมสรรพากรได้เรียกนางอัมพาพันธ์มาชี้แจงแหล่งที่มาของเงินฝากใน 29 บัญชี ประมาณ 500 ล้านบาท ปรากฏว่านางอัมพาพันธ์ ชี้แจงได้ประมาณ 400 ล้านบาท อีก 100 ล้านบาทชี้แจงไม่ได้ กรมสรรพากรจึงเรียกเก็บเสียภาษี พร้อมชดเชยค่าปรับและเงินเพิ่มตามกฎหมายกำหนด รวม 75 ล้านบาท
   @  บิ๊กจ๊อด หรือ จะสู้  2  จอมพล
    อย่างไรก็ตาม ความมั่งคั่งของ "บิ๊กจ๊อด" ถ้าเทียบกับ จอมพลสฤดิ์ ธนะรัชต์ กับ จอมพลถนอม กิตติขจร อาจใกล้เคียงกัน
     ภายหลังการอสัญกรรมของจอมพลสฤดิ์ มีข้อมูลระบุว่า จอมพลผ้าขะม้าแดงสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองและครอบครัวถึง 2,800 ล้านบาท
     จอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งเคยเป็นลูกน้องจอมพลสฤษดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในขณะนั้นถึงเหตุผลในการยึดทรัพย์จอมพลสฤษดิ์เมื่อวัน ที่ 20 พฤศจิกายน 2507 จำนวน 604.5 ล้านบาท ว่าอดีตเจ้านายของเขาใช้อำนาจโดยมิชอบกระทำการเบียดบังและยักยอกทรัพย์สิน ของรัฐ
      และให้เหตุผลในการประกาศใช้ มาตรา 17 แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร ยึดทรัพย์จอมพลสฤษดิ์ว่าต้องการมาใช้หนี้รัฐ เพราะจอมพลสฤษดิ์นำเงินของรัฐไปใช้ประโยชน์ส่วนตน ซึ่งเป็นเงินฝากในธนาคารประมาณ 400 ล้านบาท ไม่รวมเงินฝากในต่างประเทศอีกหลายร้อยล้านบาท
      ขณะที่จอมพลถนอมซึ่งถูกนายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกฯคนที่ 12  ใช้อำนาจตามมาตราเดียวกันยึดทรัพย์พร้อมกับจอมพลประภาส จารุเสถียร  และ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2517 มีมากกว่าพันล้านบาท
      ในจำนวนนี้เป็นเงินฝากกว่า 472 ล้านบาท แบ่งเป็นจอมพลถนอม 24 ล้านบาท ท่านผู้หญิงจงกล กิตติขจร 98 ล้านบาท พ.อ.ณรงค์ 32 ล้านบาท นางสุภาภรณ์ กิตติขจร 32 ล้านบาท  ไม่รวมทรัพย์สินอื่น 700-800 ล้านบาท
      เห็นได้ว่าผู้โค่นอำนาจในยุคอดีตแต่ละคนล้วนมั่งคั่ง  ขณะที่นายทหาร คมช.ผู้โค่นอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณเมื่อวันที่ 19 กันยายน หลายคนอู้ฟู่
      การจัดซื้ออาวุธนับหมื่นล้านบาทถูกวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งเมือง
      เพราะรักชาติ กันทีไร ก็ร่ำรวยกันทันตาเห็น !!! 

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1254482992


--
http://www.unblockallweb.com/
http://downmerng.blogspot.com
http://picasaweb.google.com/prainn999/14255302# ทัพผ่านฟ้าสู่ราชประสงค์ วันที่ 14 เมษายน 2553
http://www.unblockallweb.com/index.phpq=aHR0cDovL2Rvd25tZXJuZy5ibG9nc3BvdC5jb20%3D&hl=3e8
http://www.112victims.org/
http://www.thaifreenews.org/
http://friendfeed.com/
http://chirpcity.com/bangkok/3
http://www.radaroo.com/
http://factsforthais.blogspot.com/2009/05/7.html
http://tv.kapook.com/nbt.php
http://friendfeed.com/antactica
block
http://www.ustream.tv/channel/redheart
http://redpower-sm-germany.com

สองมาตรฐานเข้าข้างอำมาตย์ ของ กปอพช.

สองมาตรฐานเข้าข้างอำมาตย์ ของ กปอพช.




(กปอพช. คือ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน)



ใจ อึ๊งภากรณ์



กปอพช. ได้ตกต่ำลงอีกขั้นในการอ้างตัวเป็นองค์ภาคประชาชน

เพราะเฉยต่อการที่รัฐบาลขู่จะเข่นฆ่าคนเสื้อแดง

และพอรัฐบาลอำมาตย์ปราบปรามเรียบร้อยไปแล้ว ก็ออกมาโทษทั้งสองฝ่าย



ในเดือน พฤษภาคม มิถุนายน และ กันยายน ๒๕๕๑

ขณะที่พันธมิตรเสื้อเหลืองกำลังยึดทำเนียบรัฐบาลและท้องถนน กปอพช.

เรียกร้องให้รัฐบาลพรรคพลังประชาชนเคารพสิทธิเสรีภาพของพันธมิตรฯ

ในการชุมนุมอย่าง "สงบ" ต่อมาในเดือนมิถุนายน กปอพช.

ได้เรียกร้องให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งลาออก ในช่วงนั้น ส.ว.

"เอ็นจีโอ" รสนา โตสิกตระกูล

ก็ออกมาพูดว่ารัฐบาลไม่มีสิทธิ์สลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ

รัฐบาลในครั้งนั้นก็ไม่ได้ใช้กำลังทหารหรืออาวุธปืนสลายการชุมนุม ทั้งๆ

ที่พันธมิตรฯมีการใช้อาวุธปืนและระเบิด

อย่างไรก็ตามการใช้ก๊าซน้ำตาอย่างไม่ถูกต้องโดยตำรวจอาจทำให้ผู้ประ ท้วงเสียชีวิตหนึ่งคนในวันที่

๗ ตุลาคม คนอื่นที่เสียชีวิต ตายเพราะระเบิดตนเอง (ดู ประชาไท

พฤษภาคม มิถุนายน และกันยายน ๒๕๕๑)



ตอนนี้ หลังจากที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ไม่เคยมาจากการเลือกตั้ง

ใช้ทหารฆ่าประชาชน 88 ศพ เพื่อหลีกเลี่ยงการเลือกตั้ง ..... กปอพช.

ออกแถลงการณ์ที่มีเนื้อหาว่า.... "เราเห็นว่า

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นความอำมหิตของรัฐบาลและแกนนำของผู้ ชุมนุม

ที่มุ่งเอาชีวิตของประชาชนเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุชัยชนะทางการ เมือง"

(แถลงการณ์ กปอพช. ๒๐ พ.ค. ๒๕๕๓)



ตลอดเวลาที่มีการชุมนุมของคนเสื้อแดง กปอพช. ไม่เคยออมา

"เรียกร้องให้รัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพของคนเสื้อแดงในการชุมนุมอ ย่างสงบ"

และไม่เคยออกมา "เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก"

อย่างที่เคยเรียกร้องสมัยที่พันธมิตรป่วนเมือง แถม ส.ว.

รสนายังออกมาชักชวนให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงกับคนเสื้อแดงอีกด้วย



วิกฤตการเมืองครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า เอ็นจีโอ

เป็นอีกกลุ่มหนึ่งในสังคมไทย รวมกับกองทัพ อำมาตย์ ศาล พรรคประชาธิปัตย์

และนักวิชาการกระแสหลัก

ที่หมดความชอบธรรมโดยสินเชิงที่จะอ้างว่าอยู่เคียงข้างประชาชน

ประชาธิปไตย และความเป็นธรรมในสังคม





ถ้าพวก เอ็นจีโอ เข้ามาในชุมชนของท่าน กรุณาถามมันว่ามันสังกัด

กปอพช. หรือไม่ และถ้ามันสังกัด ก็เชิญมันออกจากชุมชนไป

เบื้องหลังฉากเลือด พ.ค.ทมิฬ "53 "มาร์ค" 100 ศพ ล้างเผ่าพันธุ์ "แดง" นักฆ่าลอยฟ้ากับฮีโร่ ของ ปชป.

""ด่วนก่อนถูกลบ"" เบื้องหลังฉากเลือด พค.ทมิฬ "53" ถ้าไม่อ่านแล้วจะเสียใจ


Sun, 05/30/2010 - 14:30
by redall
Report topic

เบื้องหลังฉากเลือด พ.ค.ทมิฬ "53 "มาร์ค" 100 ศพ ล้างเผ่าพันธุ์ "แดง" นักฆ่าลอยฟ้ากับฮีโร่ ของ ปชป.



มติชนสุดสัปดาห์





ไม่ใช่เรื่องเกินคาดที่กองทัพจะเข้าสลายการชุมนุมของคน เสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อแผนโรดแม็ปของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกล้มเลิก



ไม่ใช่เรื่องเกินคาด ที่จะเกิดปฏิบัติการยึดราชประสงค์ หลังจากที่ เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล แม่ทัพแดงผู้คุมกองกำลังติดอาวุธและผู้วางแผนยุทธวิธีสู้ ตายสนิท หลังจากที่ถูกยิงเมื่อ 13 พฤษภาคม แล้วนอนไอซียูนาน 82 ช.ม.



ไม่ใช่ เรื่องเกินคาดที่ยุทธการยึดราชประสงค์ จะสำเร็จราบรื่นง่ายดาย เพราะไม่มี "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" หรือไอ้โม่งดำเจ้าเก่าเมื่อ 10 เมษายน ที่สี่แยกคอกวัว แหวกวงล้อมทหารออกปฏิบัติการโจมตีทหารในยามค่ำคืน ระหว่างยุทธการปิดล้อมเต็มรูปแบบได้



แต่ที่เกินคาด ก็คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หักหลัง ทั้งประธานวุฒิสภาและกลุ่ม ส.ว. ที่อาสาเป็นตัวกลางเจรจากับแกนนำ นปช. ด้วยการสั่งทหารลุยปราบม็อบแดง หลังจากที่แสดงทีท่าและวาจาบางประโยค ที่ทำให้ฝ่าย ส.ว. คิดว่าพร้อมเจรจาด้วย แค่ไม่กี่ชั่วโมงรุ่งสางของวันพุธที่ 19 พฤษภาคม วันที่ใครๆ คิดว่าบ้านเมืองมีทางออก เพื่อลดความสูญเสีย กลับกลายเป็นวันมหาวิปโยคนองเลือด ทั้ง นายประสบสุข บุญเดช และเสธ.อู้ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช หน้าแตกยับเยิน



จาก "พฤษภาทมิฬ 2535" มาสู่ "พฤษภาทมิฬ 2553" ฉากเลือดที่ทำให้ทหารด้วยกันเองตกตะลึง

เพราะ กลางดึกคืนวัน 18 พฤษภาคม นายอภิสิทธิ์ประกาศกร้าวกลางวงขุนทหารที่แตกแยกออกเป็นสองฝ่าย ว่า "การเจรจาจบไปนานแล้ว" อันหมายถึงการเดินหน้ายุทธการ "ยึดราชประสงค์ 53" ตามแผนเดิมที่ได้หารือกันอย่างลับๆ มาแล้ว 2 วัน แม้ขุนทหารส่วนหนึ่งอยากให้ท่านผู้นำลองอีกสักครั้งไม่เสียหลาย การเจรจาเริ่มต้นขึ้นได้เสมอ ขณะที่อีกส่วนหนึ่ง กระตุ้นให้ ท่านผู้นำตัดสินใจ ด้วยเพราะกำลังทหารและแผนทั้งหมดพร้อม 100% ที่จะเข้าปฏิบัติการแล้ว เพราะถ้าเลยวันดีเดย์ 19 พฤษภาคม ออกไปอีก ก็จะเสียจังหวะ เพราะกว่าที่จะพร้อมต้องใช้เวลาและวงรอบ หลังการสับเปลี่ยนกำลังทหารให้สดชื่น และชินกับพื้นที่ปฏิบัติการรวมถึงการประสานของหน่วยกำลังต่างๆ ทั้งกำลังหลัก 3 กองพล คือ



กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ที่บทหนักสุด บุกตะลุยสวนลุมพินี ด่านศาลาแดง ซึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นของ เสธ.แดง



กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) บุกด้านเพลินจิต ชิดลม



และกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) บุกเข้าทางปทุมวัน



รวม ถึง หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ของรบพิเศษ และคอมมานโดของอากาศโยธิน (อย.) กองทัพอากาศ ที่ต้องประสานกับรถไฟลอยฟ้าบีทีเอสให้หยุดเดินรถ เพราะต้อง "ปฏิบัติการลอยฟ้า" ขึ้นไปเดินเท้าบนรางรถไฟฟ้าเพื่อเข้าโจมตีจากหลายจุด เพื่อปลิดชีพคนหัวใจแดง แต่ฉาบหน้าด้วยหน้าที่ระวังป้องกัน กำลังทางพื้นราบที่ทหารม้าใช้รถสายพานลำเลียงพล (เอพีซี.) แบบ T85 บุกด่านหน้า



โดยหน่วยรบพิเศษบนรางรถไฟฟ้าทุกจุดมีเป้าหมายสุด ท้ายอยู่ที่ เวทีการชุมนุมสี่แยกราชประสงค์โดยเฉพาะที่แยกศาลาแดง จุดเข้าตีจุดใหญ่จุดแรก ที่พวกเขามีหน้าที่ยิงแล้วก็ยิงใส่กลุ่มฮาร์ดคอร์และผู้ชุมนุมเบื้องล่าง ที่แม้จะถอยห่างจากแนวรั้วแนวรบก็ไม่รอด



"ผมจะไม่ให้เวลาพวกมันอีกแล้ว" คือประโยคที่ขุนทหารคาดไม่ถึงว่าจะหลุดออกมาจากปากท่านผู้นำอย่างง่ายดาย อันหมายถึงการตกลงใจส่งทหารทั้ง 112 กองร้อย หรือเกือบ 2 หมื่นคน เข้าสลายการชุมนุม ภายใต้คำสวยหรูไม่ดูรุนแรงว่า กระชับวงล้อมพื้นที่การชุมนุมเรื่องที่เกินคาด

จนทหารเองก็แปลกประหลาดใจ ตรงที่ ปฏิบัติการนี้สุดแสนจะง่ายดาย สำเร็จอย่างราบรื่น

เพราะแม้จะมีการตอบโต้จากกองกำลังติดอาวุธ ทั้งปืนสั้น ปืนเอ็ม 16 หรือเอ็ม 79 แต่ก็ไม่ระคายผิวทหารแม้แต่น้อย

เพราะ มีแค่กลุ่มการ์ด นปช. ที่เคยได้แต่เดินกร่าง ยิงปืนได้ แต่ไม่เป็นยุทธวิธีทางทหาร และพวกเสื้อแดงที่บ้าระห่ำใช้หนังสติ๊ก ระเบิดเพลิง สู้กับลูกปืนของทหาร จนต้องร่วงผล็อย นอนตายข้างถนนอย่างไร้ค่าอีกทั้ง กองกำลังติดอาวุธและฮาร์ดคอร์ที่เคยมีอยู่ ก็ได้กระจายกำลังออกไปต่อสู้กับทหารที่ชายแดนรอบนอกหลายจุด ทั้งบ่อนไก่ พระราม 4 สามย่าน ดินแดง ประตูน้ำ ราชปรารภ รางน้ำ จนเจ็บตายกันไปเยอะ ที่เหลือก็กลับเข้ามาพื้นที่วงในหัวใจสำคัญที่ราชประสงค์ไม่ได้ เพราะมีทหารอุดไว้หมดแถมทั้งบทเรียนจาก 10 เมษายนที่ทหารพ่ายแพ้ ทำให้ ศอฉ. ไฟเขียวให้ยิงด้วยกระสุนจริงได้เมื่อเห็นตัว โดยไม่ต้องสนว่า มันจะมีอาวุธอยู่ในมือหรือไม่



ถ้าจะพูดกันตรงๆ สำหรับทหารแล้ว มันมันมือนะที่ได้ยิงกระสุนจริง แถมเป้าวิ่ง คนจริงๆ ชีวิตจริงๆ ได้อารมณ์มากกว่า ยิงเป้ากระดาษ หรือยิงกระสุนซ้อม หรือใช้ปากตะโกน "ปังๆ ๆ" ในตอนฝึกซ้อมรบเยอะเลย ร่วงเห็นๆ เลือดกระจาย แถมยิงได้ไม่อั้นไม่ต้องกลัวเปลืองกระสุน หรือต้องคอยเก็บปลอกส่งคืนนาย มันถือเป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งของพวกทหารบ้าเลือดเลยทีเดียว แต่ขอแค่ว่าเมื่อถึงเวลาต้องสู้กับทหารเขมรขอให้ได้อย่างนี้นะ



ไม่ เชื่อก็ ต้องเชื่อ สำหรับทหารแล้วมีจำนวนไม่น้อยที่ "บอดี้เค้าต์" ไปด้วย ราวกับเป็นเกียรติประวัติในชีวิตตัวเอง โดยลืมนึกไปว่าไอ้เสื้อแดงหรือหัวใจแดงตรงหน้า มันคือคนไทย แต่ทว่า พวกเขาถูก "ตั้งโปรแกรมใส่หัว" ไว้แล้วว่า มันเป็นผู้ก่อการร้าย คิดล้มล้างสถาบันอย่าลืมว่า นายกรัฐมนตรี ประกาศ "ให้เสรีในการปฏิบัติ" แก่ทหารและหน่วยความมั่นคงอย่างเต็มที่ไว้แล้ว



แม้แต่หน่วยรบพิเศษ ลอยฟ้าที่พร้อมบุกเข้าใจกลางการชุมนุม อันมีเป้าหมายที่แกนนำ นปช. ตัวเป้งๆกำลังทหารหลักทั้ง 3 กองพลถูกสั่งให้ เมื่อยึดแยกสารสินได้ ยังไม่บุกเข้าสี่แยกราชประสงค์ เพราะกลัวสูญเสียมาก แต่ใช้กำลังทหารกดดันเพื่อให้แกนนำ นปช. ประกาศยุติการชุมนุมเอง ที่ไม่ใช่แค่เพราะกลัวผู้ชุมนุมจะล้มตายกันอีกเป็นเบือ แต่ยังกลัวว่าพวกเขาเองจะเป็นเป้าของสไนเปอร์นักฆ่าลอยฟ้า ที่เคยปลิดชีพ เสธ.แดง มาแล้วด้วยนั่นเอง เพราะคำสั่งตกลงมาแล้ว



แล้วที่เกินคาดก็ คือ งานนี้สำหรับทหาร สำหรับ ศอฉ. แล้ว ถือว่า "ตายน้อย" กว่าที่คาด หรือประมาณการ หรือภาษาทหารเรียกว่า "จำหน่าย" ไว้ เพราะแค่ 54 คน จากที่คาดกันไว้ว่าน่าจะเป็นหลักร้อย 200-300 คน บาดเจ็บเป็นพัน รวมทั้งหมดตั้งแต่ 10 เมษายนอีก 31 ราย ปะทะประปรายมาเรื่อยๆ อีกแค่เกือบร้อยศพเท่านั้นจึงไม่แปลกที่หลังเสร็จสิ้นยุทธการ ทั้ง นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และ ผอ.ศอฉ. และรัฐมนตรีต่างๆ จะมีเสียงชื่นชมและขอบคุณจากผู้นำ ต่อบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. และบิ๊กหนุ่ย พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง เสธ.ทบ. ที่แม้จะกลายเป็นขุนพลมือเปื้อนเลือดไปแล้ว แต่ในฐานะผู้วางแผนยุทธการ และสั่งการทั้งหมด จนทำให้ทั้งสองเกลอเพื่อนรัก กลายเป็น "ฮีโร่" กลางใจรัฐบาล กลางใจขุนพลประชาธิปัตย์ และเป็นฮีโร่ของ ศอฉ.



แต่คงเป็นตรงกันข้ามในสายตาคนเสื้อแดงด้วยเพราะ สองนายพลนี่แหละที่จะขึ้นสู่อำนาจ เคียงข้างและหนุนหลังรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ในอีกไม่ช้านี้ คนหนึ่งคือ ผบ.ทบ. ที่เปี่ยมอำนาจและบารมี แถมมีอายุราชการถึงปี 2557 ส่วนอีกคนจะขึ้นเป็นเสนาธิการทหารบก เป็น เสธ.ทบ.คู่ใจ ในฐานะเพื่อนรักพร้อมด้วยแผงอำนาจเพื่อนเตรียมทหาร 12 ที่มีผลงานอันน่าภาคภูมิใจหนนี้ ขึ้นมาคุมกองทัพบก จนแทบจะจัดเก้าอี้ห้าเสือ ทบ. ไม่ลงตัว ทั้ง พล.ท.โปฎก บุนนาค ผบ.นสศ. ที่ส่ง ฉก.90 พร้อมพลแม่นปืนหรือสไนเปอร์นับร้อยมาเป็นพระเอกในยุทธการนี้ แถมมีผลงาน "โบว์แดง" ที่เป็นที่ "รู้กัน" อีกด้วย



แม้แต่ 6 ศพที่วัดปทุมวนาราม ที่กลายเป็นตราบาปของบิ๊กโชย พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผบ.พล.1 รอ. ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ฝีมือของ ร.31 รอ. ลูกน้องแต่อย่างใด เพราะยังไม่ได้บุกมาถึงวัด ได้รับคำสั่งให้หยุดอยู่ที่สยามพารากอนบิ๊กเต่า พล.ท.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ผช.เสธ.ทบ. ฝ่ายกิจการพลเรือน (ฝกร.) เตรียมขึ้นเป็น รอง เสธ.ทบ. ด้วยผลงานด้านปฏิบัติการจิตวิทยา และ propaganda และสงครามข่าวสารข่าวลือ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ใจไม่เหลือง ดูข่าวไปอาเจียนไปบิ๊กอ้อ พล.ต.วิลาศ อรุณศรี รองแม่ทัพน้อยที่ 1 ที่คุมกำลังทหารม้า พล.ม.2 รอ.ของน้องรัก บิ๊กฟิ้งค์ พล.ต.สุรศักดิ์ บุญสิริ เป็นกำลังหลัก ลุ้นขึ้นเป็นพลโท แม่ทัพภาค 1 แทนบิ๊กอ๊อด พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ ที่งานนี้หนาวๆ ร้อนๆ เพราะผลงานไม่เข้าตา พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยเหตุที่เป็นทหารสายพิราบ จนถูกตวาดว่า "ถ้ามรึงไม่ยิงมัน แล้วจะให้มันยิงมรึงก่อนหรือไง"แม้จะเป็นน้องรักบูรพาพยัคฆ์ ของ พล.อ.ประยุทธ์



แต่เพราะเขากับ พล.ท.ดาว์พงษ์ มีปัญหาทางใจกันอยู่ จึงอาจทำให้ พล.ท.คณิต พบเจอกับ "สิ่งไม่คาดฝัน" เพราะในยุทธการนี้เขาก็ถูกข้ามหัว สั่งการไปยังผู้บัญชาการกองพล โดยไม่ผ่านแม่ทัพมองออกไปข้างหน้าอีกนิด หลังการโยกย้ายทหารในเดือนกันยายนเสร็จ วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป กองทัพบก มี ผบ.ทบ. ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ และ เสธ.ทบ. ชื่อ พล.อ.ดาว์พงษ์ ที่ล้วนเป็นทหารขาลุย เด็ดขาด คนหนึ่งเป็นนักรบเหรียญรามาฯ ที่แม้จะมีตำนานเล่าอยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นนักรบผู้หาญกล้า ความเป็นผู้นำ กล้าตัดสินใจ กล้าได้กล้าเสียเต็มตัว ส่วนอีกคนเคยเป็นมือขวาบิ๊กตุ๋ย พล.อ.อิสระพงษ์ หนุนภักดี ในยุคพฤษภาทมิฬ เมื่อ 18 ปีที่แล้วมาก่อน มีดีกรีเป็น ผบ.ร.11 รอ. และ ผบ.พล.1 รอ.



ยิ่งในสภาวะที่ นายอภิสิทธิ์ ตามล้างเผ่าพันธุ์คนเสื้อแดง ประหนึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ทั่วประเทศ หมายถอนรากถอนโคนด้วยแล้ว รับรองว่า ทบ. ในยุค "ผบ.ตู่" กับ "เสธ.หนุ่ย" ไม่มีอิดออดหรือประคองตัวแบบบิ๊กป๊อกแน่

แต่ชาติบ้านเมืองจะเป็นยังไงก็คิดกันเอาเองได้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ



ไม่ มีอะไรในโลกนี้ที่เพื่อนรักต่างสายพันธุ์คู่นี้ ที่คนหนึ่งเป็นบูรพาพยัคฆ์ อีกคนเป็นวงศ์เทวัญ ทำไม่ได้ หรือไม่กล้าทำ หากเพื่อสกัดกั้นคนเสื้อแดงและการกลับคืนสู่อำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าของฉายา "ผู้ก่อการร้ายตัวพ่อ"ใบหน้าที่สดใสของ พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้ง พล.ท.ดาว์พงษ์ หลังชนะสงคราม ปรากฏให้เห็นชัดเจน ต่างจาก พล.อ.อนุพงษ์ ที่เดินก้มหน้างุดๆ เช็ดเลือดที่ไหลจากมือซิบๆ และแววตาทุกข์ใจของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม



สงครามยังไม่จบ นับศพทหารได้ไม่กี่ศพ แต่ศพประชาชนนับได้ถึง 85 ศพ บาดเจ็บเกือบ 2 พันคน ตั้งแต่ 10 เมษายนเรื่อยมา จนทุกวันนี้ และส่อเค้าว่ายังไม่จบง่ายๆ เพราะต้องมีการประกาศเคอร์ฟิวต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ และคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก และเสี่ยงต่อการปะทะและสูญเสียอีกนั้น ก็อาจทำให้ นายอภิสิทธิ์ กลายเป็นนายกฯ ร้อยศพ หรือมาร์ค 100 ศพ เข้าจนได้สักวัน



แน่ นอนว่า วันนี้รัฐบาล ปชป. ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ ผู้มีความแข็งแกร่งและแข็งกร้าว เด็ดขาด ยิ่งกว่าบิ๊กทหาร หรือจอมพลบางคนในกองทัพ ได้เป็นผู้ชนะ แถมมีกองทัพหนุนหลัง ยอมทำตามทุกอย่างแม้แต่ต้องยิงคนไทยด้วยกันเอง ก็ยิ่งมั่นคง ใครๆ ก็ยอมสยบ ขอเป็นพรรคเป็นพวก ขอเป็นผู้ชนะด้วย ยิ่งเรื่องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ให้ลืมไปได้เลย เพราะตอนนี้ นายอภิสิทธิ์ทั้งแข็งและเป็นต่อ จนบิ๊กๆ ทหารเห็นด้วยกับฉายา "สฤษดิ์น้อย" แถมไม่มีแม้เสียงเรียกร้องความรับผิดชอบหรือสปิริตจากผู้นำออกมาเลยสักแอะ ยิ่งเมื่อเวลานี้ มี "สฤษดิ์น้อย" ถึง 2 คน รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยประชาชนเกลียดนักการเมือง ไม่น่าห่วง เพราะมันน่ารังเกียจอยู่แล้ว ทำได้ทุกอย่างเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ แต่อย่าทำให้ประชาชนเกลียดทหาร แม้จะเป็นประชาชนเสื้อแดง ผู้คิดต่าง แถมเป็นคนส่วนใหญ่ในพื้นที่



ความ แตกแยกยิ่งร้าวลึกที่น่าเป็นห่วงคือ คำสั่ง ศอฉ. ที่ให้ทหารในต่างจังหวัดกวาดล้างแกนนำและคนเสื้อแดง ทั้งเหนือ และโดยเฉพาะอีสาน พื้นที่ เรดโซน ที่บิ๊กกะหล่ำ พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาค 2 เพื่อน ตท.10 ของบิ๊กป๊อก เรียกแกนนำแดงและนักการเมืองในสายพรรคเพื่อไทย มารายงานตัว พร้อมสำทับด้วยประโยคสุดหนาวและน่าขนลุกที่ต้องเซ็นเซอร์เอาไว้



แต่ ทว่า ความเคียดแค้นเกลียดชังฝังในและรอวันปะทุไม่มีความเมตตาปรานีในสนามรบ ทั้งนักการเมืองและทหารที่อยู่ในอำนาจ ต่างมีรังสีอำมหิตแผ่ซ่าน เพราะยังมีคำสั่งให้ตามล่าตัวแกนนำที่หลบหนี โดยเฉพาะ กี้ร์ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่มีข่าวหลบไปทางเขมรบ้าง อีสานหรือแม้แต่ภาคเหนือบ้าง และแรมโบ้อีสาน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ท่ามกลางข่าวลือที่ทั้งคู่ถูก "จับตาย" ไปแล้ว แม้แต่ "เก่ง" การุณ โหสกุล ส.ส.เพื่อไทย เขตดอนเมือง นักการเมืองร่างเล็กจอมซ่า ก็อยู่ในลิสต์ และการตามล่าของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 30 คน ด้วยข้อหา "บงการเผาเมือง"





จาก ศอฉ.เขมรเคยมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เขมรแดง แต่ตอนนี้ ไทยกำลังล้างบางไทยแดง โดยที่รัฐบาล ปชป. บังคับให้ทหารต้องเป็นศัตรูกับชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่ปากท่านผู้นำบอกจะเยียวยา ปรองดองจนไม่อาจรู้ว่า ในอนาคตอันใกล้ ทหารจะแต่งเครื่องแบบเดินถนนได้หรือเปล่า ทั้งในกรุงเทพฯ อีสานหรือเหนือ ที่ตั้งหรือหน่วยทหาร จะกลายเป็นเป้าหมายของการถูกโจมตี และวินาศกรรม ไม่ต่างจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ตอนนี้ นายอภิสิทธิ์ ชนะแล้ว แต่ควรต้องตั้งสติใหม่ว่า ตนเองคือนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน ไม่ใช่ผู้กำลังมีชัยชนะ ที่ต้องตามล้างบางศัตรูให้ย่อยยับ จนไม่มีที่ยืน หรือว่าต้องการผลักไสให้พวกเขาเข้าป่า หรือไปจับมือกับโจรใต้ เพื่อกลับมาทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อกดดันรัฐบาล ชาติบ้านเมืองอยู่ในมือแล้วเห็นทีท่านผู้นำต้องหยุดรังสีอำมหิต หลบซ่อนแววตาแห่งชัยชนะ หยุดคำพูดเชือดเฉือน หยุดการผลักไสพวกเขาให้เป็นศัตรูถาวรด้วยคำว่า ผู้ก่อการร้าย



หยุดสั่งให้ทหารตามฆ่าประชาชนต่อ



หยุด ศอฉ. ยึดสื่อรัฐประชาสัมพันธ์ฝ่ายเดียว ปกปิดไม่พูดความจริง จนคนไทยแทบจะอาเจียนกับข่าวที่มอมเมา

เพื่อสร้างความชอบธรรมในการปราบปราม



ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องหยุด และยอมแพ้ได้แล้ว แกนนำเสื้อแดงและไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลัง ก็ต้องหยุดเช่นกัน หยุดเผาเมือง

หยุดลงใต้ดิน เพราะการตายจะมากขึ้น เพราะทหารจะลงไปเล่นใต้ดินด้วยเช่นกัน



ฝ่าย กองทัพก็ต้องหยุดบูรพายัคฆ์ครองอำนาจ แบ่งปันอำนาจให้ทหารวงศ์เทวัญ และทหารไร้สี เยียวยาทหารแตงโม ตามความสามารถและความชอบธรรม เพื่อถอดสลักระเบิดเวลาที่จะทำให้กองทัพแตกต่อให้เกลียดคนเสื้อแดงเข้าไส้ เพราะพวกเขารักทักษิณ ศัตรูตัวฉกาจ



แต่รู้หรือไม่ว่าศาสตร์เหนือ ศาสตร์ กลยุทธ์เหนือชั้นคือ ทำศัตรูให้เป็นมิตร อาจจะแสร้งรักและทำดีกับพวกเขาเพื่อซื้อใจ การเสแสร้ง เป็นเรื่องถนัดของนักการเมืองอยู่แล้ว อะไรๆ ก็อาจดีขึ้นสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องถือเป็นทุกข์ของผู้นำประเทศด้วย ที่ต้องรีบเยียวยาแก้ไขให้ประชาชน หากยังยืนอยู่บนเส้นชัย ก็จะไม่มีวันมองเห็นและแก้ปัญหาได้



ไหนบอกว่าประชาชนต้องมาก่อน แต่นี่ "ประชาชนต้องตายก่อน"





มติชนสุดฯ หน้า16

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

พูดไว้..เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551 ยังมีอีกหลายๆ วาทะ

Re: ปชป..ย่อมาจาก ปล้นชาติ และ ประชาชน จริงหรือ ???


sunny Yesterday at 9:36 am









พูดไว้..เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551

ยังมีอีกหลายๆวาทะ เช่น..



"ผมไม่นึกไม่ฝันว่า เรามีรัฐที่ ได้ทำร้ายประชาชนถึงขั้นเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส"

(มาร์ค ๙ ตุลาค ม ๒๕๕๑)



"แล้วเรายังมีรัฐ ที่พยายามยัดเยียดความผิดกลับไป ให้ประชาชนอีก เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ครับ"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"บัดนี้เขาสูญเสียไปแล้ว นายกฯ ไปยัดเยียดข้อหาใส่เขาอีก พฤติกรรมอย่างนี้ ไม่มีทางนำพามาซึ่งความสมานฉันท์ความปรองดอง"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"มันมีการทำร้ายประชาชน มีการยิงอาวุธใส่ประชาชน ไม่ได้เป็นไปตามที่ได้แถลง ก่อนหน้านี้ว่าเป็นการใช้แก๊สน้ำตาเท่านั้น"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"ประชาชนคนไทยนั้น ไม่ใช่ประชาชนที่รุนแรงครับ แต่เป็นผู้ถูกกระทำจากความรุนแรงของภาค รัฐ"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"เขาเป็นเด็กสาวซึ่งจบการศึกษาดี ไปชุมนุมด้วยความเชื่ออย่างบริสุทธิ์ว่า เขาไปพิทักษ์ความถูกต้อง"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"เป็นคนหรือเปล่า กระทำกับบุคคลถึงขั้นเสียชีวิต แล้วยังยัดเยียดปรักปรำใส่ร้ายเขาอีกว่าเขาพกพาอาวุธ"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"พันธมิตรทำถูกทำผิด รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ทำผิด ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายประชาชน อันนี้คือจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"เราเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ทำในสิ่งที่เราพอจะทำได้ ถ้าการทิ้งตำแหน่งนั้นทำให้บ้านเมืองสงบแก้ไขปัญหาได้ เราทำทันที"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"ผมเห็นอาการท่าน (สมชาย วงศ์สวัสดิ์) ตอนนี้มีแต่ ความหวาดกลัว ความหวาดระแ วงไปหมดแล้วถาม ท่านว่า ท่านอยู่ไปเพื่ออะไร ครับ"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"ผมสนใจว่าต้องมีคนรับผิดชอบต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชาชนครับ"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"ผมอยากจะเห็นว่ารัฐบาลมีบทบาทในการคุ้มครองประชาชนมากกว่านี้"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"ถ้ายุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน ผมก็ไม่ว่านะครับ ก็ดีกว่ารัฐบาลอยู่อย่างนี้แล้วรัฐบาลพังไปเรื่อยๆ"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



"การเมืองในวิถีทางประชาธิปไตย ไม่มีที่ไหนในโลก ที่ประชาชน ถูกทำร้ายจากภาครัฐแล้ว รัฐบาลที่มาจากประชาชนไม่แสดงความรับผิดชอบ"

(มาร์ค ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑)



_________________

ท้องทะเลและมหาสมุทร ไม่เคยปราศจากคลื่นฉันใด

มนุษย์อยู่ร่วมในสังคมเดียวกัน โดยความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ย่อมสร้างผลกระทบต่อสังคมได้ฉันนั้น
http://nonlaw.7forum.net/forum-f1/topic-t997.htm

ปชป..ย่อมาจาก ปล้นชาติ และ ประชาชน จริงหรือ ???

ปชป..ย่อมาจาก ปล้นชาติ และ ประชาชน จริงหรือ ???


333Unit on Sat Apr 10, 2010 12:20 am





1. ไทยเสียเขาพระวิหาร เพราะ เสนีย์ ปราโมทย์ นอนตื่นสายไปไม่ทันศาล ทำให้ศาลโลกตัดสินให้ไทยแพ้เขมร ต้องเสียเขาพระวิหารไปตราบเท่าทุกวันนี้

2. ยกเลิกกฏหมายอาชีพสงวนของไทย เปิดโอกาสให้ต่างชาติทำอาชีพแข่งกับคนไทยได้โดยเสรี

3. สร้างหนี้IMF หลอกคนไทย โดยตัวเองไปกินเงินเดือน IMF แล้วรับตำแหน่งเป็นกรรมการถาวร IMF

4.สมคบบริษัทเลแมนด์บราเดอร์ปล้นประเทศไทย ประกาศล้มแบ๊งและบริษัทสินทรัพย์ ยึดเข้า ปรส. ห้ามคนไทยซื้อแม้ว่าจะเป็นเจ้าของเดิม แต่ฝรั่งซื้อได้ราคา 100 ขาย 20 ขาดทุนประเทศฉิบหาย 7แสนล้าน จากหนี้ที่ไทยไม่เคยสร้าง (มีหลักฐานครบ คดีหมดอายุความในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์)

5.ออกกฏหมายทาส 11 ฉบับ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีข้อบังคับ อ้าง MOU ซึ่งไม่ใช่ Agreement อาศัยจังหวะปล้นคนไทยให้ฝรั่งสามารถซื้อที่ดิน เพื่อผูกขาดระบบเศรษฐกิจไทย จนปัจจุบัน

6. BOI ที่สร้างความฉิบหายให้กับประเทศ นอกจากเอาคนไทยไปเป็นทาสแรงงานแล้ว ประเทศไม่ได้อะไรเลย ทุกอย่างประชาชนไทยรับภาระจ่ายให้ฝรั่งหมด (บอกส่งเสริมการลงทุน) 5 ปี ฟรีกระทั่งกระดาษเช็ดก้น เงินที่ได้จากการส่งสินค้าที่ผลิตออกก็ไม่มีข้อบังคับใดที่จะกำหนดให้ฝากธนาคารชาติไทยก่อน(เอาต้นไป ดอกเบี้ยเข้ารัฐ) ก็ไม่ทำ ไม่มีประเทศใดในโลกที่ประชาชนในประเทศเขาซึ่งเข้ารับตำแหน่งรัฐบาล จะสร้างความฉิบหายอย่างถาวรได้ขนาดนี้



นี่แค่หนังตัวอย่าง.....



ปัจจุบัน กู้ไปแล้ว 8 แสนล้าน ต้องกู้ให้ได้ครบ 2 ล้าน ๆ ประชาชนจะฉิบหาย วอดวาย ขายตัวก็ไม่เป็นไร เพราะกินเฉพาะCommission 5% ค่าปากถุงก็คุ้ม



.........................................................



และเมื่อมีประชาชนผู้รู้ความจริง นำข้อมูลมาเปิดเผย ก็ปิดกั้นข่าวสาร ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ แม้จะเป็นรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็ตาม ถึงแม้จะอ้าง พรก.ฉุกเฉินฯ ก็มิได้หมายความว่า พรก.ฉุกเฉินฯ จะมีฐานะสูงกว่า รัฐธรรมนูญแต่อย่างใด การปิดกั้นสื่อ เช่น สั่งปิด TV วิทยุ และ SMS จึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญอันเป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ

และยิ่งไปกว่านั้น ยังปิดกั้นการสื่อสารทางอินเตอร์เนต โดยสั่งปิดเวปไซร์อีก 36 เวป คือ



รายชื่อเว็บไซต์ที่ถูกปิด

1. http://www.gurakdang.com

2. http://www.norporchorusa2.com

3. http://www.norporchorusa.com

4. http://www.uddthailand.com

5. http://www.uddthailand.net

6. http://www.uddthailand.biz

7. http://www.uddthailand.org

8. http://www.uddthailand.info

9. http://www.peoplechannel.net

10. http://www.newskythailand.us

11. http://www.newskythailand.com

12. http://www.newskythailand.net

13. http://www.newskythailand.org

14. http://www.thaipeoplevoice.org

15. http://www.thaipeoplevoice.org/index.html

16. http://www.thaipeoplevoice.net

17. http://www.thaipeoplevoice.info

18. http://www.prachathai.com

19. http://www.redthai.org

20. http://www.reddthai.net

21. http://www.rednon.org

22. http://www.sunshine.redthai.org

23. http://www.konthaiuk.com

24. http://www.redshirttv.com

25. http://www.isan.redthai.org

26. http://www.youtube.com/uddtoday

27. http://www.twitter.com/uddtoday

28. http://www.facebook.com/note.php?note_id=344691628328

29. http://young-udd.hi5.com/friend/p352428162-Young+UDD_Thailand

30. http://groups.google.com/group/redthai

31. http://www.d-dek.org

32. http://www.xat.com/uddtoday

33. http://www.uddtoday.ning.com

34. http://www.sameskybooks.org

35. http://www.weareallhuman.net

36. http://www.sanamluang.tv



ปชป..ย่อมาจาก ปล้นชาติ และ ประชาชน จริงหรือ ??? นี่คือคำถาม
http://nonlaw.7forum.net/forum-f1/topic-t997.htm

เหตุเกิดที่วัดปทุมวนาราม ไทยรัฐเช้านี้

Re: ทหาร กับ ปฏิบัติการต่อพระสงฆ์


satan_baby Today at 11:52 am





เหตุเกิดที่วัดปทุมวนาราม ไทยรัฐเช้านี้



บรรทัดนี้ขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยกับ ผู้เสียชีวิต อันเนื่องมาจากเหตุการสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ประวัติศาสตร์ การเมืองเลือด 19 พฤษภาคม จะถูกบันทึกไว้ในลักษณะไหนก็ตาม ผู้สูญเสีย



จะถูกเรียกขานว่าผู้ก่อการร้ายหรือวีรบุรุษก็ตาม และนับตั้งแต่นี้ไปความแตกแยกในประเทศจะลุกลามเป็นสงครามกลางเมือง บ้านป่าเมืองเถื่อนหรือไม่ก็ตาม แต่ความเป็นชาติไทยและการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์คนไทยจบสิ้นลงแล้ว จากปากคำของเจ้าหน้าที่อาสาพยาบาล ร่วมด้วยช่วยกันโดยอ้างอิงจากการบอกเล่าเรื่องราววิปโยคของเจ้าหน้าที่ชื่อเก่ง ผ่านหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจหน้า 8 ประจำวันศุกร์ที่ 21 พ.ค.2553 ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณวัดปทุมวนาราม



"พวกผมคิดว่าเขตอภัยทานคือพื้นที่ปลอดภัยมากที่สุด" "ความจริงแล้วเพื่อนผมน้องเล็กศพที่ 6 ไม่น่าจะเสียชีวิตถ้ามีคนมาช่วยได้ทัน ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนกล้าเข้ามาช่วยเพราะขนาดพวกผมเห็นคนโดนยิง จะออกไปลากผู้บาดเจ็บเข้ามาในวัดก็ถูกกราดยิงลงมาหมด"



"ผู้บาดเจ็บ 6 รายในวัดทรมานมาก ลุงคนหนึ่งโดนยิงอกทะลุหลัง เป็นรูใหญ่มาก ต้องเอาไม้ช่วยกันดามหลังไม่ให้กระดูกขยับ เจ้าหน้าที่ไม่มีใครนำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลได้ ช่วยกันทำทุกอย่างให้น้ำเกลือ ให้เลือด จาก 6 โมงเย็นจน 5 ทุ่มกว่ามีรถพยาบาลเข้ามา แต่ก็มีคนเจ็บโดนยิงที่สะโพกไม่ยอมออกไปเพราะกลัวทหารยิงมาก" "ผมไม่ได้ใส่ร้ายทหาร ผมว่าศพเยอะมากๆ ผมสงสัยทำไมทหารต้องเอาศพคนตายไป ผมเห็นกับตา เข้าไปโดนยิงแล้วทหารเอาเชือกผูกแล้วลากออกไป ทำไมรัฐบาลเป็นแบบนี้ ผม ชาวบ้านหลายคนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ในช่วงเช้าที่สลายการชุมนุมเฉพาะศพที่ลากขึ้นรถไปน่าจะ 4 ศพ วันที่ 10 เม.ย.ผมว่าหนักแล้วน่าจะยุติ วันที่ 19 พ.ค.หนักกว่าเยอะ"



"ผมคิดว่าป้ายตัวใหญ่เขตอภัยทานหน้าวัดจะปลอดภัยที่สุดแล้วแต่ไม่ใช่"



และวันที่ 21 พ.ค.เข้าเคลียร์พื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์บางส่วน พบศพอีก 9 ศพ ตามคำบอกเล่าของผู้อยู่ในเหตุการณ์ หลังแกนนำเสื้อแดงเข้ามอบตัวเกิดความชุลมุนวุ่นวาย มีคนเสื้อแดง จำนวนนับร้อย หนีเข้าไปหลบในตึกเซ็นทรัลเวิลด์ ต่อมามีเสียงปืน มีการจุดไฟ มีเสียงกรีดร้อง



ใครคือชายชุดดำที่เผาทั้งช่อง 3 เผาเซ็นทรัลเวิลด์ กราดยิงใส่ประชาชน



ทั้งๆที่รู้ว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คือประชาชนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมมือเปล่าทั้งนั้นคงไม่ทำกันเอง สลดกับมาตรฐานความเป็นมนุษย์ในสังคมไทย สลดกับท่าทีรัฐบาล สลดกับการวิตกกังวลต่อการสูญเสียวัตถุผลประโยชน์มากกว่าชีวิตเพื่อนมนุษย์ สลดต่อสันดานของนักการเมืองที่แอบอ้างชาวบ้านเป็นตัวประกันได้ทุกสถานการณ์ และสลดต่อการปล้นอำนาจในระบอบประชาธิปไตยครั้งแล้วครั้งเล่า



มาตรฐานของประเทศไทยอยู่ที่ปลายกระบอกปืนว่าจะชี้ไปทางไหน.



หมัดเหล็ก

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Zeze Na Pombejra: Open Letter to CNN International

Dear Sirs/Madams,

Recently, CNN Thailand Correspondents Dan Rivers and Sarah Snider have made me seriously reconsider your agency as a source for reliable and accurate unbiased news. As of this writing, over thousands of CNN's viewers have already begun to question the accuracy and dependability of its reporting as regards events in Afghanistan, Haiti, Iraq, Iran, etc., in addition to Bangkok.

As a first-rate global news agency, CNN has an inherent professional duty to deliver all sides of the truth to the global public who have faithfully and sincerely placed their trust and reliance in you. Your news network, by its longtime transnational presence and extensive reach, has been put in a position of trust and care; CNN's journalists, reporters, and researchers have a collective responsibility to follow the journalist's code and ethics to deliver and present facts from all facets of the story, not merely one-sided, shallow and sensational half-truths. The magnitude of harm or potential extent of damage that erroneous and fallacious news reporting can cause to (and exacerbate), not only a country's internal state of affairs, economic well-being, and general international perception, but also the real lives and livelihood of the innocent and voiceless people of that nation, is enormous. CNN should not negligently discard its duty of care to the international populace by reporting single-sided or unverified facts and distorted truths drawn from superficial research, or display/distribute biased images which capture only one side of the actual event.

Mr. Rivers and Ms. Snider have NOT done their best under these life-threatening circumstances because many other foreign correspondents have done better. All of Mr. Rivers and Ms. Sniders' quotes and statements seem to have been solely taken from the anti-government protest leaders or their followers/sympathizers. Yet, all details about the government's position have come from secondary resources. No direct interviews with government officials have been shown; no interviews or witness statements from ordinary Bangkok residents or civilians unaffiliated with the protesters, particularly those who have been harassed by or suffered at the hands of the protesters, have been circulated.

Why the discrepancy in source of information? Why the failure to report all of the government's previous numerous attempts to negotiate or invitations for protesters to go home? Why no broadcasts shown of the myriad ways the red protesters have terrorized and harmed innocent civilians by burning their shops, enclosing burning tyres around apartment buildings, shooting glass marbles at civilians from high altitudes, attacking civilians in their cars, and worst of all, obstructing paramedics and ambulances carrying civilians injured by M79 grenade blasts during the Silom incident of April 24, 2010, thereby resulting in the sole civilian casualty? The entire timeline of events that have forced the government to take this difficult stance has been hugely and callously ignored in deference to the red 'underdogs'.

Mr. Rivers and Ms. Snider's choice of sensational vocabulary and terminology in every newscast or news report, and choice of images to broadcast, has resulted in law-abiding soldiers and the heavily-pressured Thai government being painted in a negative, harsh, and oppressive light, whereas the genuinely violent and law-breaking arm of the anti-government protesters - who are directly responsible for overt acts of aggression not only against armed soldiers but also against helpless, unarmed civilians and law-abiding apolitical residents of this once blooming metropolis (and whose actions under American law would by now be classified as terrorist activities) – are portrayed as righteous freedom fighters deserving of worldwide sympathy and support. This has mislead the various international Human Rights watchdogs to believe the Thai government are sending trigger-happy soldiers out to ruthlessly murder unarmed civilians without just cause.

As a current resident of "war zone" Bangkok who has experienced the effect of the Red protests first hand and is living in a state of constant terror and anxiety as to whether her family, friends, and home would get bombed or attacked by the hardcore anti-government vigilantes/paramilitary forces - I appeal to CNN's professional integrity to critically investigate and scrutinize the misinformed news reporting of your above-named correspondents. If they are incapable of obtaining genuine, authentic facts from any other source except the Red Protest leaders and red-sympathizing Thai translators or acquaintances, or from fellow non-Thai-speaking journalists who are similarly ignorant of Thai language, culture, history, and society, then perhaps CNN should consider reassigning field correspondents to Thailand.

I implore and urge you to please take serious action to correct or reverse the grave injustice that has been done to the Thai nation, her government, and the majority of law-abiding Thai citizens and expatriate residents by having endorsed and widely circulated poorly researched and misrepresented news coverage of the current ongoing political unrest and escalating violence in Thailand.

Copies of this open letter have also been distributed to other local as well as international news media and social networks for public information. Please feel free to contact me further should you require any additional concrete and reputable evidence in substantiation and corroboration of my complaints and claims stated hereinabove.

Thank you.


Yours faithfully,

Napas Na Pombejra, B.A., LL.B. (Lond.)
Bangkok, Thailand
May 17, 2010


Addendum

Enclosed herewith for your attention and information some examples of other quality international news bulletins by respectable foreign journalists so you may assess at your leisure the sub-par quality and misleading nature of Mr. Rivers and Ms. Sniders' journalism:

1. New York Times: http://www.nytimes.com/2010/05/16/world/asia/16thai.html
2. Fox News/Associated Press:
(i) http://www.foxnews.com/world/2010/05/16/chaos-continues-thailand-govt-rejects-talks-continues-crackdown-killed/
(ii) http://www.foxnews.com/world/2010/05/17/thai-red-shirt-general-dies-chaos-continues/
3. Global Post: http://www.globalpost.com/dispatch/thailand/100514/thailand-protests-bangkok
4. NHK: http://www.nhk.or.jp/daily/english/17_15.html
5. Al Jazeera: http://english.aljazeera.net/programmes/listeningpost/2010/04/2010423171540981286.html
6. Deutsche Welle (English media in Germany):
http://www.dw-world.de/dw/article/0,,5575254,00.html
7. Local English daily newspaper's chronology of events on Day 3 of "War in Bangkok":
http://www.nationmultimedia.com/home/2010/05/17/politics/What-went-down-30129533.html


Youtube Videos, images, articles showing what CNN has failed to circulate:

1. http://www.youtube.com/watch?v=F_xg0l6-oHY
2. http://www.youtube.com/watch?v=6rGqZDvRa_U
3. http://www.youtube.com/watch?v=r3tfBBSVJdU&feature=player_embedded
4. http://www.youtube.com/watch#!v=4hmSPbugDAA&feature=related
5.
6. http://www.youtube.com/watch#!v=XRi6m7QG06M&feature=related
7. http://www.youtube.com/watch#!v=Aws3ZMXzNjs&feature=related
8. http://www.youtube.com/watch#!v=giuEOQ62n6E&feature=related
9. http://www.youtube.com/watch#!v=yy3a73Y6fBg&feature=related
10. http://www.youtube.com/watch?v=MLuffqnszIY
11. http://www.youtube.com/watch?v=MqnXV2ltUlE
12. http://www.youtube.com/watch#!v=LXMmQReCKVg&feature=related
13. http://www.youtube.com/watch#!v=FWN7zYV7_Bo&feature=related
14. http://www.youtube.com/watch?v=005jYjmEAVE
15. http://www.youtube.com/watch?v=ioOrreuQ94c
16. http://tweetphoto.com/22647514
17. http://www.bangkokpost.com/opinion/opinion/37395/put-an-end-to-this-rebellion?awesm=fbshare.me_AMdZh
18. http://www.facebook.com/photo.php?pid=333752&id=118996168116475
19. http://www.youtube.com/watch#!v=El-zPySi9cQ&feature=related
20. http://www.youtube.com/watch#!v=KzcVcHokaVM&feature=related
21. http://www.youtube.com/watch?v=agLBIWDKWkI
22. http://www.youtube.com/watch#!v=34hSEPOC71g&feature=related
23. http://www.youtube.com/watch#!v=kuAQyc5d1HY&feature=related
24. http://www.youtube.com/watch#!v=Pv9Hpfb6gNE&feature=related
25. http://www.youtube.com/watch?v=x7yAVunxw1g&feature=player_embedded
26. http://www.facebook.com/photo.php?pid=328250&o=all&op=1&view=all&subj=122351831122683&aid=-1&id=1785951766
27. http://www.facebook.com/photo.php?pid=5959829&o=all&op=1&view=all&subj=122351831122683&aid=-1&id=506055218
28. http://www.facebook.com/photo.php?pid=5960844&o=all&op=1&view=all&subj=122351831122683&aid=-1&id=506055218
29. http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/8684405.stm
30. http://www.facebook.com/video/video.php?v=428905841067&ref=mf
http://www.facebook.com/#!/note.php?note_id=390511677967&id=277701868